สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อลู่วิ่ง

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อลู่วิ่ง

ผู้คนไม่น้อยที่มักผิดพลาดจากการซื้อลู่วิ่ง วันนี้เรามีข้อมูลดีดีมาให้คุณทราบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

เมื่อเราอยากได้ลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่องมาออกกำลังกายเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีนั้น ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการรักตัวเองและคนรอบข้าง แต่หลายคนมักใช้ราคาที่เราตั้งไว้เป็นตัวกำหนดแรก ทำให้มักจะได้สินค้าที่ใช้แล้วไม่คุ้มค่า ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน Play Strong Tip ดีดีวันนี้จึงมีหลักในการเลือกลู่วิ่งที่คุณควรคำนึงถึงหากอยากได้สินค้าที่ใช้งานนาน คุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายไป

1. ต้องเช็คอายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง ของคนที่ใช้งานในบ้าน โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักและส่วนสูงที่เยอะที่สุดในบ้านนั้นเป็นเกณฑ์สำคัญมาก เพราะหากคุณเลือกลู่วิ่งที่รับน้ำหนักได้น้อย มาใช้งานสำหรับคนน้ำหนักเยอะ ก็แน่นอนว่าลู่วิ่งดีแค่ใหนก็คงใช้งานได้ไม่นานแน่นอน อีกทั้งพื้นไม้ที่รองสายพานลู่วิ่งนั้นยังมีหลายเกรด ถ้าเป็นเกรดที่บางก็ยิ่งทำให้การกระแทรกน้ำหนักในการวิ่งนั้นทำให้ลู่วิ่งพังได้ง่ายๆ

ส่วนสูงนั้นมีความสำคัญไม่แพ้น้ำหนักเช่นกัน หากคนที่มีส่วนสูงมากเลือกใช้ลู่วิ่งที่มีความยาวสายพานสั้นๆต่ำกว่า 150 ซม.ก็จะเป็นปัญหาในการก้าวตกสายพานได้ง่ายๆทำให้เกิดอันตรายอีกเช่นกัน

เรื่องอายุหรือวัยนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง หากมีคนสูงอายุในบ้านใช้ลู่วิ่งควรคำนึงถึงระบบป้องกันสำคัญของลู่วิ่ง อาทิ ที่วัดชีพจรเพื่อเช็คการทำงานของระบบการหายใจให้ไม่หนักเกินไปสำหรับคนสูงอายุหรือคนที่มีโรคประจำตัว ,ที่จับข้างลู่วิ่งที่เหมาะสมกับส่วนสูงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุขนาดใช้เครื่อง,หรือแม้กระทั่งสายหยุดฉุกเฉินในขณะที่เกิดการล้มหรือสะดุดระหว่างออกกำลังกาย

เพิ่มเติมให้อีกข้อ คือความกว้างของหัวไหล่ หากลู่วิ่งนั้นมีหน้ากว้างสายพานที่แคบก็คงไม่เหมาะสมที่จะใช้งานในคนที่มีไหล่กว้าง เพราะจะทำให้การวิ่งไม่ถนัด ขนาดแนะนำสำหรับความกว้างสายพานคือ 50 ซม.ขึ้นไป

AC-DC MOTOR

2. ขนาดและรูปแบบของมอเตอร์ ซึ่งมอเตอร์ในลู่วิ่งนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ACและDC สำหรับมอเตอร์ AC เป็นมอเตอร์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่องเกิน 4 ชั่วโมง ส่วนมากจะนิยมใช้ในฟิตเนส แต่ข้อเสียคือราคามอเตอร์ค่อนข้างสูงแน่นอน

ส่วนมอเตอร์ DC นั้นเหมาะสมสำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งจะประหยัดไฟและราคาต่ำกว่า ส่วนเรื่องของแรงม้านั้นต้องดูแรงม้าค่าสตาร์ท เริ่มต้น 2.5 แรงม้าก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่อย่าหลงเชื่อแรงม้าสูงๆเพราะเป็นค่าแรงม้าในการทำงานสูงสุดซึ่งน้อยคนที่จะวิ่งไปถึงค่าแรงม้า 10 ได้

3. ขนาดของเครื่อง หลายคนคิดว่าเครื่องที่เบาจะเคลื่อนย้ายสะดวกสบาย แต่ลืมไปว่าเครื่องที่มีน้ำหนักเบานั้นก็ไม่สามารถรับน้ำหนักหรือแรงกระแทกจากผู้ใช้งานที่มีน้ำหนักตัวเกินได้ ควรเลือกเครื่องที่มีน้ำหนัก 100 กก.ขึ้นไปเพื่อลดการสั่นสะเทือนในการวิ่ง

4. ระบบรับแรงกระแทก โดยเฉพาะผู้ที่สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาหัวเข่าและข้อเท้า ควรเลือกลู่วิ่งที่มีจุดรองรับการกระแทกที่กระจายหลายจุดทั่วลู่วิ่ง เพื่อให้การวิ่งนั้นนุ่มนวล ลดการกระแทกข้อต่อ แต่สิ่งนี้ก็ต้องคำนึงถึงการลงน้ำหนักเท้าที่ถูกวิธีด้วยเช่นกัน

5. ระบบเซอร์วิสก่อนและหลังการขาย จุดนี้สำคัญที่สุดที่เช่นกัน หากลู่วิ่งเกดปัญหาแต่เรียกหาบริการหลังการขายแล้วเนิ่นนานหรือตามตัวยาก ก็คงจะหัวเสียได้ หรือแม้กระทั่งการเลือกลู่วิ่งที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานหากเกิดปัญหาบ่อยๆ แล้วไม่มีการรับประกันที่ดี ก็คงไม่คุ้มกับการจ่ายค่าซ่อมจนสุดท้ายต้องกลายเป็นแค่ราวตากผ้าก็มีให้เห็นมากมาย

ได้รู้จักการเลือกลู่วิ่งที่จะทำให้คุ้มค่ากับการจะซื้อมาเพื่อสุขภาพที่ดีของเราแล้ว คราวนี้ก็ไม่พลาดที่จะเลือกซื้อลู่วิ่งเครื่องใหม่ของคุณได้อย่างมั่นใจ หรือหากอยากได้ความรู้เพิ่มเติม Play Strong Team เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องออกกำลังกายและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการสอนออกกำลังกายให้คำปรึกษาท่านได้ฟรีครับ